วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: ฮีบรู 4:11-16 เพราะว่าเรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป – ฮีบรู4:15 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 7-8, มาระโก 4:21-41 ภรรยาของผมอบและตกแต่งคุกกี้ช็อกโกแลตชิพขนาดยักษ์ สำหรับงานเลี้ยงวันเกิดหลานชายของเรา เธอเอาตำราอาหารออกมาเตรียมส่วนผสม และเริ่มทำตามขั้นตอนง่ายๆในการทำคุกกี้ เธอทำตามสูตรง่ายๆ และทุกอย่างก็ออกมาดี หากชีวิตเป็นเช่นนี้บ้างคงดี แค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆไม่กี่ขั้นตอน แล้วชีวิตก็มีความสุข แต่ชีวิตไม่ง่ายอย่างนั้น เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ตกต่ำ และไม่มีสูตรง่ายๆ ให้เราทำตาม เพื่อจะได้ชีวิตที่ปราศจากความเจ็บปวด ความสูญเสียความอยุติธรรม หรือความทุกข์ยาก ท่ามกลางความเจ็บปวดของชีวิต เราต้องการการดูแลส่วนตัวจากองค์พระผู้ช่วยให้รอด ผู้เคยดำเนินชีวิตในโลก และประสบปัญหาเหมือนที่เราเจอ ฮีบรู 4:15 หนุนใจเราว่า “เพราะว่าเรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป” พระคริสต์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อประทานชีวิตให้แก่เรา ทรงสามารถอุ้มชูเราผ่านความโศกเศร้า และประสบการณ์อันมืดมิดได้ พระองค์ทรง “แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบความเจ็บปวดของเราไป” (อสย.53:4) พระเยซูทรงทราบว่าไม่มี “สูตร” ง่ายๆที่จะปกป้องเราจากความทุกข์ยากในชีวิต พระองค์จึงทรงร่วมในความรู้สึกนั้นกับเรา [...]
↧
ไม่มีสูตรง่ายๆ
↧
ประภาคารของพระเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: มัทธิว 5:1-14 ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้ – มัทธิว5:14 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 9-11, มาระโก 5:1-20 ประภาคารมิชชันพอยท์ สร้างขึ้นในปี 1870 บนคาบสมุทรแถบมิชิแกนส่วนเหนือ เพื่อเตือนเรือว่ามีสันทราย และโขดหินตามชายฝั่งทะเลสาบมิชิแกน ประภาคารแห่งนี้ถูกตั้งชื่อตามประภาคารอีกรูปแบบหนึ่ง คือ คริสตจักรมิชชันซึ่งสร้างขึ้นก่อนหน้านั้น 31 ปี ในปี 1839 ศจ.ปีเตอร์ ดักเกอร์ตี ตอบสนองการทรงเรียกให้เป็นศิษยาภิบาลที่คริสตจักรในโอลด์มิชชั่น ซึ่งประกอบด้วยชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ห่างออกไปทางใต้บนคาบสมุทรเดียวกัน เขานำให้ชุมชนเติบโต ซึ่งมีทั้งเกษตรกร ครู และช่างฝีมือ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างวิถีชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ชุมชน เมื่อผู้เชื่อในพระคริสต์ร่วมใจทำงานเป็นหนึ่งเดียว การสามัคคีธรรมในความเชื่อของพวกเขา ได้ส่องแสงฝ่ายวิญญาณสู่โลกอันมืดมิด (ฟป.2:15-16) พระเยซูตรัสว่า “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้… จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้ทรงอยู่ในสวรรค์” (มธ.5:14-16) ประภาคารมิชชันพอยท์เตือนเรือว่ามีอันตราย แต่คริสตจักรโอลด์มิชชันดั้งเดิม ชี้หนทางฝ่ายวิญญาณให้แก่คนที่ฟัง [...]
↧
↧
ยอมรับเสมอ
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: ยอห์น 1:6-13 พระองค์ได้เสด็จมายังบ้านเมืองของพระองค์ และชาวบ้านชาวเมืองของพระองค์ไม่ได้ต้อนรับพระองค์ – ยอห์น1:11 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 12-14, มาระโก 5:21-43 วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเป็นบุคคลหนึ่งที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ถูกโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ดปฏิเสธเมื่ออายุ 19 ปี เนื่องจากไม่ผ่านการสอบสัมภาษณ์ เขานึกถึง“ความรู้สึกหวาดกลัว” ในตอนนั้น ที่มาพร้อมกับความกังวลว่าพ่อของเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อทราบข่าว เมื่อคิดถึงอดีต บัฟเฟตต์กล่าวว่า “[ทุกสิ่ง] ในชีวิตของผม…ที่ผมคิดว่ามันพังพินาศไปแล้วในตอนนั้น ได้กลับกลายเป็นสิ่งที่ดีกว่า” การถูกปฏิเสธ แม้จะเจ็บปวดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องขวางกั้นเรา จากการทำสิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้เราทำ ชาวเมืองที่บ้านเกิดของพระเยซู ไม่ยอมรับว่าพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์ (ยน.1:11) และต่อมาผู้ที่ติดตามพระองค์อีกมากมาย กลับปฏิเสธพระองค์ (6:66) การที่พระเยซูถูกปฏิเสธ และการที่ทรงทำพันธกิจอย่างต่อเนื่องล้วนเป็นแผนการของพระเจ้าสำหรับพระบุตรของพระองค์ (อสย.53:3) แม้พระเยซูทรงต้องทนทุกข์เพราะถูกโลกปฏิเสธ และทรงทราบว่าพระบิดาจะทรงทอดทิ้งพระองค์ที่กางเขน (มธ.27:46) พระองค์ก็ยังทรงไปรักษาคนเจ็บป่วย ขับไล่วิญญาณชั่ว และประกาศข่าวประเสริฐแก่ฝูงชน ก่อนทรงถูกตรึงกางเขนพระเยซูตรัสว่า “[พระบิดา] ข้าพระองค์ได้กระทำกิจที่พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กระทำนั้นสำเร็จแล้ว” [...]
↧
ขอบพระคุณ
วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: ยอห์น 11:32-44 พระเยซูทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์ทรงโปรดฟังข้าพระองค์“ – ยอห์น11:41 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 15-16, มาระโก 6:1-29 โศกนาฏกรรมก่อให้เกิดช่องว่างที่ไม่อาจเติมเต็มในครอบครัวหนึ่ง เมื่อรถบรรทุกพุ่งชนเด็กน้อยวัยเตาะแตะที่ไล่ตามแมวไปบนถนนเด็กวัยสี่ขวบนิ่งงัน มองดูอย่างเสียขวัญ ขณะที่พ่อแม่ของเธออุ้มร่างไร้วิญญาณของน้องสาวไว้ นานหลายปีที่ความว่างเปล่าอันเยือกเย็นของช่วงเวลานั้นครอบงำครอบครัวนี้ไว้ในความโศกเศร้า ความรู้สึกเดียวที่ช่วยบรรเทาได้คือความด้านชา และยากที่จะคิดได้ว่าจะพ้นจากสภาพนี้ได้อย่างไร แอน วอสแคมป์ ซึ่งเป็นนักเขียน คือเด็กสี่ขวบคนนั้น ความโศกเศร้าเพราะการเสียชีวิตของน้องสาวได้หล่อหลอมมุมมองที่เธอมีต่อชีวิตและพระเจ้าในโลกที่เธอเติบโตมา ซึ่งไม่ค่อยมีเรื่องของพระคุณ ความชื่นชมยินดีเป็นเพียงความคิดที่ไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง สมัยที่วอสแคมป์เพิ่งมีลูก เธอเริ่มค้นพบสิ่งที่ยากจะอธิบายซึ่งพระคัมภีร์เรียกว่า ความชื่นชมยินดี คำว่า ชื่นชมยินดีและพระคุณ มาจากคำกรีกว่า ไคโร (chairo) ซึ่งคำนี้ซ่อนอยู่ตรงกลางของคำว่าขอบพระคุณ ในภาษากรีก เธอสงสัยว่า ง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ เธออยากรู้ว่าจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจขอบพระคุณสำหรับของขวัญ 1,000 อย่างที่เธอมีอยู่เธอค่อยๆเริ่ม และไม่นานความชื่นชมยินดีก็หลั่งไหลออกมาอย่างเสรี พระเยซูก็ทรงขอบพระคุณก่อน ไม่ใช่หลังจากที่ทรงชุบลาซารัสให้เป็นขึ้นจากความตาย (ยอห์น 11:41) วอสแคมป์พบว่า [...]
↧
คุณปู่แอบหนีไป
วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: สดุดี 16 จิตใจข้าพเจ้าจึงยินดีและจิตวิญญาณก็ปรีดา ร่างกายของข้าพเจ้าก็อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยด้วย – สดุดี16:9 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 17-19, มาระโก 6:30-56 เคน ลูกพี่ลูกน้องของฉัน ต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยความกล้าหาญเป็นเวลาสี่ปี ในวันสุดท้ายของเขา ภรรยา ลูกทั้งสามคน และหลานๆเดินเข้าออกห้องของเขา เพื่อใช้เวลาและกล่าวคำลาเฉพาะเจาะจงกับเขา เมื่อทุกคนออกจากห้องไปครู่หนึ่ง เขาก็ก้าวเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ เมื่อสมาชิกในครอบครัวทราบว่าเขาจากไปแล้ว หลานสาวคนหนึ่งกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “คุณปู่แอบหนีไปแล้ว” ชั่วครู่ก่อนหน้า องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตกับเคนในโลกนี้ ไม่กี่อึดใจต่อมาวิญญาณของเคนก็ไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ สดุดี 16 เป็นสดุดีบทโปรดของเคน ซึ่งเขาขอให้อ่านในพิธีไว้อาลัยของเขา เขาเห็นด้วยกับดาวิด ผู้เขียนสดุดีว่า ไม่มีสมบัติใดมีค่าไปกว่าการมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า (สดุดี 16:2,5) พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของดาวิด และท่านยังทราบว่าหลุมฝังศพไม่ได้ทำให้ชีวิตของผู้เชื่อสูญไป ท่านกล่าวว่า “พระองค์มิได้ทรงมอบข้าพระองค์ไว้กับแดนผู้ตาย [หลุมฝังศพ]” (สดุดี 16:10) ไม่ว่าเคนหรือใครก็ตามที่รู้จักพระเยซูองค์พระผู้ช่วยให้รอด จะไม่ถูกทอดทิ้งไว้ในความตาย เพราะการสิ้นพระชนม์และฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู วันหนึ่งเราก็จะฟื้นขึ้นจากความตายเช่นกัน (กจ.2:25-28; [...]
↧
↧
นำความเจ็บปวดของคุณมา
วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013 อ่าน: อิสยาห์ 53:1-6 แน่ทีเดียวท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบความเจ็บปวดของเราไป – อิสยาห์53:4 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 20-22, มาระโก 7:1-13 ในช่วงความสับสนวุ่นวายในทศวรรษ 1960 เพลงแนวพ็อปในอเมริกา เป็นการผสมผสานที่แปลกของการต่อต้านและความรักชาติ บางเพลงมีเนื้อหาโจมตีสงคราม ความละโมบ และความอยุติธรรมในสังคม บ้างก็ส่งเสริมการทำหน้าที่เพื่อชาติ และค่านิยมตามประเพณี แต่เพลง “เก็บเอาความเจ็บปวดของคุณ” (PackUp Your Sorrow) ของริชาร์ด ฟารินา และพอลลีน บาเอซ มาร์เดน ดูเหมือนจะเข้าพวกกับเพลงทุกประเภท เพราะเน้นการแสวงหาสันติสุขส่วนตัว ท่อนร้องรับมีเนื้อร้องว่า ถ้าคุณนำความเจ็บปวดของคุณมาได้ จงเอามาให้ฉัน คุณจะไม่ต้องเจออีก เพราะฉันรู้ว่าจะใช้มันอย่างไร จงเอาความเจ็บปวดมาให้ฉัน ทุกคนคงหวังว่าจะมีใครสักคนที่นำสันติสุขมาให้พวกเขาได้ ข่าวดีก็คือ มีคนทำได้! อิสยาห์ 53 คือภาพพยากรณ์ถึงพระผู้ช่วยให้รอดของชาวอิสราเอลตามพระสัญญา คริสเตียนทราบว่าทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ในการสิ้นพระชนม์และฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ “แน่ทีเดียวท่านได้แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบความเจ็บปวดของเราไป… แต่ท่านบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย [...]
↧
คาดหวังสิ่งใหญ่
วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2013 อ่าน: ฮีบรู 11:32-40 เพราะความเชื่อ…ความอ่อนแอของท่านก็กลับเป็นความเข้มแข็ง – ฮีบรู 11:33-34 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 23-25 , มาระโก 7:14-37 วิลเลียม แครีย์เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีความเชื่อไม่ธรรมดา เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานช่วงศตวรรษที่ 18 หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นช่างทำรองเท้า ขณะทำรองเท้าเขาจะอ่านหนังสือศาสนศาสตร์และบันทึกของบรรดานักสำรวจด้วย พระเจ้าทรงใช้พระวจนะของพระองค์และเรื่องเล่าเกี่ยวกับการค้นพบคนกลุ่มใหม่ๆ สร้างภาระใจให้เขาอยากไปประกาศทั่วโลก เขาไปเป็นมิชชันนารีในประเทศอินเดีย และไม่เพียงแค่ประกาศเท่านั้น เขายังเรียนรู้ภาษาถิ่นและแปลพระวจนะของพระเจ้า ความร้อนรนที่แครีย์มีต่องานมิชชั่นเห็นได้จากคำพูดของเขาที่ว่า “จงคาดหวังสิ่งใหญ่จากพระเจ้า จงทำสิ่งใหญ่เพื่อพระองค์” แครีย์ใช้ชีวิตตามหลักการนี้ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอีกนับพันรับใช้พระเจ้าเป็นมิชชันนารีตามอย่างเขา พระคัมภีร์มีเรื่องราวคนจำนวนมากที่ความเชื่อในพระเจ้าของพวกเขาเกิดผลอันน่าอัศจรรย์ พระธรรมฮีบรูบอกว่า“เพราะความเชื่อท่านเหล่านั้นจึงได้มีชัยเหนือดินแดนต่างๆ ได้ตั้งระบบความยุติธรรม ได้รับผลของพระสัญญา ได้ปิดปากสิงห์ ได้ดับไฟที่ไหม้อย่างรุนแรง ได้พ้นจากคมดาบ ความอ่อนแอของท่านก็กลับเป็นความเข้มแข็ง” (ฮบ.11:33-34) รายชื่อวีรบุรุษแห่งความเชื่อมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านไป และเราสามารถเป็นหนึ่งในนั้นได้ ด้วยกำลังและความสัตย์ซื่อของพระเจ้า เราสามารถทำสิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้าและคาดหวังสิ่งใหญ่จากพระองค์ได้ – HDF พระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจสร้างดารา ระบายเมฆสวยทาบทาในอากาศ ประดับดวงสุริยางามดังวาด ย่อมสามารถทรงทำกิจในชีวิตเรา [...]
↧
คนดี
วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2013 อ่าน: โรม 3:10-18 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้น ก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้ -เอเฟซัส2:8 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 26-27 , มาระโก 8:1-21 “เจอร์รีเป็นคนดี” ศิษยาภิบาลกล่าวในงานไว้อาลัยเจอร์รัลด์ สตีเวนส์ “เขารักครอบครัวสัตย์ซื่อต่อภรรยา เขารับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร เขาเป็นพ่อและปู่ที่วิเศษสุด และเป็นเพื่อนที่ดี” แต่ศิษยาภิบาลท่านนั้นก็บอกกับเพื่อนและครอบครัวที่มาในงานว่า ชีวิตที่ดีและความดีของเจอร์รีไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาได้ไปสวรรค์ และตัวเจอร์รีเองคงเป็นคนแรกที่บอกกับพวกเขาเช่นนั้น! เจอร์รีเชื่อถ้อยคำในพระคัมภีร์ที่ว่า “เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า”(รม.3:23) และ “ค่าจ้างของความบาปคือความตาย” (รม.6:23) จุดหมายปลายทางสุดท้ายและนิรันดร์ของเจอร์รีไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดีที่เขาทำ แต่ขึ้นอยู่กับการที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อรับโทษบาปแทนเขา เขาเชื่อว่าเราแต่ละคนต้องรับของประทานที่ให้โดยไม่คิดมูลค่านี้จากพระเจ้าเป็นการส่วนตัว ซึ่งก็คือ “ชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (รม.6:23) เจอร์รีเป็นคนดี แต่เขาไม่มีทาง “ดีพอ” เราก็เหมือนกัน มีแต่โดยพระคุณเท่านั้นที่เราจะรอดได้ด้วยความเชื่อ และความรอดนี้ไม่เกี่ยวกับความพยายามของเราเลย “แต่พระเจ้าทรงประทานให้” (อฟ.2:8) “จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้นที่เหลือจะพรรณนาได้” (2 คร.9:15) – [...]
↧
ตรงไปตรงมา
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013 อ่าน: ยอห์น 4:7-26 แต่ผู้ที่พิจารณาดูในวิสุทธิบัญญัติ ซึ่งเป็นพระบัญญัติแห่งเสรีภาพ และตั้งอยู่ในพระบัญญัตินั้น…ผู้นั้นก็จะได้รับความสุข เพราะการประพฤติปฏิบัติของตน – ยากอบ 1:25 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 28-30, มาระโก 8:22-38 ในบรรดาหลายสิ่งที่ผมรักในตัวคุณแม่ของผมที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นความตรงไปตรงมาของท่าน หลายครั้งผมโทรไปขอความเห็นจากท่านท่านมักพูดเสมอว่า “อย่าถามความเห็นแม่นอกจากอยากได้ความเห็นแม่จริงๆ แม่จะไม่มานั่งคิดว่าลูกอยากได้ยินอะไร แต่แม่จะบอกตรงๆว่าแม่คิดอะไร” ในโลกที่เราต้องคอยวิเคราะห์คำพูดของผู้อื่นความตรงไปตรงมาของท่านถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจและยังเป็นลักษณะของเพื่อนแท้ด้วย เพื่อนแท้พูดความจริงกับเราด้วยความรัก แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้ยิน สุภาษิตกล่าวไว้ว่า “บาดแผลที่มิตรทำก็สุจริต” (สภษ.27:6) นี่คือเหตุผลหนึ่งที่พระเยซูทรงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เมื่อพระองค์พบหญิงที่บ่อน้ำ (ยน.4:7-26)พระองค์ไม่ได้ใช้เวลาไปกับสิ่งที่เป็นเรื่องรองแต่ทรงมุ่งตรงไปที่ปัญหาและความต้องการที่อยู่ลึกที่สุดในใจของเธอ พระองค์ทรงท้าทายเธอให้วางใจในพระลักษณะของพระบิดาและตรัสกับเธอด้วยความรักถึงความฝันที่แตกสลายและความผิดหวังลึกๆในใจเธอ ขณะที่เราเดินไปกับพระเจ้า ขอให้เรายอมให้พระองค์ตรัสกับสภาพหัวใจที่แท้จริงของเราอย่างตรงไปตรงมาผ่านทางพระคัมภีร์ เพื่อเราจะหันหาพระองค์และพบว่าพระคุณของพระองค์ช่วยเราในยามต้องการ – BC พระบิดาเจ้าข้า ขอบพระคุณที่ทรงส่งพระบุตรของพระองค์ มาเป็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดและสหายเลิศของข้าพระองค์ ขอโปรดช่วยให้ข้าพระองค์เรียนรู้จากพระองค์ว่าการรักอย่างจริงใจ จะช่วยผู้คนที่เจ็บปวดซึ่งอยู่รอบข้าพระองค์ได้อย่างมากมาย พระเยซูตรัสความจริงเสมอ
↧
↧
พวกเขามองอยู่
วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2013 อ่าน: ทิตัส 3:1-8 อย่าให้เขาว่าร้ายผู้ใด อย่าให้เป็นคนมักทะเลาะวิวาทกัน แต่ให้เป็นคนสุภาพแสดงอัธยาศัยไมตรีอันดีงาม – ทิตัส 3:2 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 31-33, มาระโก 9:1-29 หลายทศวรรษมาแล้ว หลังจากเหตุการณ์สมัยเรียนมัธยมปลาย มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมเสียใจมาก ผมให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬา ผมทุ่มเทกับบาสเก็ตบอลและฝึกซ้อมนับร้อยๆ ชั่วโมง ดังนั้น เมื่อผมไม่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในทีมโรงเรียนในปีสุดท้าย ทั้งที่ได้อยู่มาตลอดตั้งแต่มัธยมต้น ผมจึงเสียใจมาก แต่ผมยังเดินหน้าต่อไปทั้งที่ผิดหวังและสับสนผมเป็นเพียงคนจดสถิติในทีม ไปดูการแข่งและบันทึกว่าเพื่อนร่วมทีมทำแต้มหรือแย่งบอลมาได้กี่ครั้ง จนพวกเขาเข้ารอบไปแข่งระดับรัฐโดยไม่มีผม ความจริงแล้วผมไม่ทันได้นึกว่าพวกเขาจะมองดูปฏิกิริยาของผมอย่างไร ผมแค่ทำส่วนของผมไปเรื่อยๆ ผมจึงประหลาดใจที่ได้ยินเพื่อนร่วมชั้นหลายคนบอกพี่ชายผมเมื่อไม่นานมานี้ว่า พวกเขาเห็นภาพของพระคริสต์ในท่าทีการตอบสนองของผม ผมไม่ได้จะบอกให้คุณทำอย่างที่ผมทำ เพราะผมก็ไม่แน่ใจว่าผมทำอะไรไปบ้าง แต่ผมอยากบอกคุณว่า คนอื่นกำลังมองเราอยู่ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ ในทิตัส 3:1-8 เปาโลพูดถึงชีวิตที่เราสามารถดำเนินได้โดยพระเจ้า คือ ชีวิตที่มีความยำเกรง เชื่อฟัง และมีเมตตา อันเป็นผลจากการบังเกิดใหม่ผ่านทางพระเยซูและได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระองค์ประทานให้กับเรา ขณะที่เราดำเนินชีวิตโดยมีพระวิญญาณทรงนำ พระเจ้าจะสำแดงให้คนอื่นเห็นว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่จริงผ่านชีวิตของเรา – JDB พระบิดาที่รัก พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์นั้นจำกัด [...]
↧
บังคับให้พัก
วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2013 อ่าน: เศฟันยาห์ 3:14-20 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า เป็นนักรบผู้ประทานความมีชัยพระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้า ด้วยความยินดีพระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง – เศฟันยาห์3:17 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: กันดารวิถี 34-36, มาระโก 9:30-50 ก่อนถึงวันคริสตมาสในปีหนึ่ง หมอบอกเพื่อนของผมว่าเธอเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต้องเข้ารับเคมีบำบัดทันที ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ คิมเพิ่งบอกกับเพื่อนๆ ว่าพระเจ้าอวยพรให้เธอมีความสุขกับครอบครัวที่รัก บ้านที่อบอุ่นและหลานชายที่เพิ่งเกิด ขณะที่อยู่ในโรงพยาบาล คิมขอให้พระเยซูสำแดงให้รู้ว่าพระองค์สถิตอยู่ด้วยและขอพระองค์ทรงอยู่ใกล้ เธอเรียกการรักษาตลอดเจ็ดเดือนและการพักฟื้นหลังจากนั้นว่า “ถูกบังคับให้พัก” เธอเล่าว่าเธอได้เรียนรู้ที่จะช้าลง ใคร่ครวญเงียบๆ และพักสงบในความดี ความรักและแผนการอันสมบูรณ์ของพระเจ้า ไม่ว่าเธอจะหายป่วยหรือไม่ก็ตาม พระเจ้าทรงสัญญาต่อประชากรอิสราเอลและคิมว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า…ประทานความมีชัย พระองค์ทรงเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยความยินดี พระองค์จะทรงรื้อฟื้นเจ้าใหม่ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงเริงโลดเพราะเจ้าด้วยร้องเพลงเสียงดัง” (ศฟย.3:17) คิมกำลังฟื้นตัวหลังผ่านการเดินทางชีวิต ที่เธอบอกว่าเปลี่ยนชีวิตของเธอให้ดีขึ้น ตอนนี้เธอกลับมาใช้ชีวิตยุ่งๆ ตามเดิมแล้ว แต่ยังได้หยุดเพื่อทบทวนบทเรียนเรื่องการ “ถูกบังคับให้พัก” เป็นระยะ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าใกล้พระทัยแห่งรักของพระเจ้าฟังพระสุรเสียง และวางชีวิตของเราไว้ในพระหัตถ์พระองค์ – DCM หากใครประสบปัญหา เหนื่อยล้าแทบทนไม่ไหว [...]
↧
รถบัมพ์
วันพุธที่ 6 มีนาคม 2013 อ่าน: มัทธิว 18:23-35 พระองค์เจ้าข้า หากพี่น้องของข้าพระองค์จะกระทำผิดต่อข้าพระองค์เรื่อยไป ข้าพระองค์ควรจะยกความผิดของเขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือ – มัทธิว18:21 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 1-2, มาระโก 10:1-31 ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับ “รถบัมพ์” ในสวนสนุกคุณเข้าไปนั่งในรถ รู้อยู่ว่าถึงอย่างไรก็ต้องถูกชน… คุณเพียงแค่ไม่รู้ว่าจะถูกชนแรงแค่ไหนและเมื่อถูกชน คุณก็เหยียบคันเร่ง ไล่หลังคนที่ชนคุณ และหวังว่าจะชนให้แรงกว่าที่คุณถูกชนให้ได้ นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนุกสำหรับรถบัมพ์ แต่สำหรับชีวิตแล้วนี่เป็นกลยุทธที่เลวร้ายมากเพราะเมื่อคุณถูกชน การชนกลับมีแต่ทำให้เรื่องแย่ลง และสุดท้ายทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บ พระเยซูมีกลยุทธ์ที่ดีกว่า คือ ให้อภัยคนที่ “ชน” เรา เราอาจสงสัยเหมือนเปโตรว่า เราต้องให้อภัยกี่ครั้ง เมื่อเปโตรถามพระเยซูว่า “ถึงเจ็ดครั้งหรือ” พระเยซูทรงตอบว่า “เจ็ดครั้งคูณด้วยเจ็ดสิบ” (มธ.18:21-22) หรืออีกนัยหนึ่งคือให้อภัยอย่างไม่จำกัด เราควรมีใจให้อภัยเสมอเพราะอะไร? พระเยซูทรงอธิบายในคำอุปมาเรื่องทาสที่ไม่ยอมให้อภัยว่า เราให้อภัยไม่ใช่เพราะคนทำผิดสมควรได้รับการอภัย แต่เพราะเราได้รับการอภัยก่อนเจ้านายคนนั้นกล่าวว่า “เราได้โปรดยกหนี้ให้เอ็งหมด เพราะเอ็งได้อ้อนวอนเรา เอ็งควรจะเมตตาเพื่อนทาสด้วยกัน เหมือนเราได้เมตตาเอ็งมิใช่หรือ”(มัทธิว 18:32-33) และเพราะเราเป็นผู้ที่ได้รับการยกโทษมาก [...]
↧
ริมขอบ
วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2013 อ่าน: ฟีลิปปี 4:10-20 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์ – ฟีลิปปี 4:19 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 3-4, มาระโก 10:32-52 ผีเสื้อที่เกิดในสวนพฤกษศาสตร์เฟรเดอริกเมย์เยอร์ในเมืองแกรนด์ แรพิดส์ รัฐมิชิแกน เท่ากับได้เกิดในสวนสวรรค์เขตร้อนในร่ม ที่เหมาะกับความต้องการทุกด้านของมันอุณหภูมิก็พอเหมาะ ความชื้นก็พอเหมาะอาหารก็สมดุลกันระหว่างพลังงานกับสารอาหารที่ทำให้มันแข็งแรง มันไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลย แต่ผีเสื้อบางตัว พอเห็นท้องฟ้าสดใสนอกเรือนกระจกก็ใช้เวลาทั้งวันมัวแต่บินอยู่ใกล้ๆเพดาน ซึ่งห่างไกลจากแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ฉันอยากบอกกับผีเสื้อพวกนั้นว่า “ไม่รู้หรือว่าข้างในมีทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับเธอแล้ว? ข้างนอกหนาวเหน็บ และเธอคงตายในไม่กี่นาทีถ้าเธอได้ตามที่เธอปรารถนา” ฉันสงสัยว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการตรัสกับฉันใช่หรือไม่ ฉันจึงถามตัวเองว่า ฉันโหยหาสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อตัวฉันหรือไม่? ฉันใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อเสาะหาสิ่งที่ไม่จำเป็นและไม่ควรหรือไม่? ฉันมองข้ามการจัดเตรียมอันอุดมของพระเจ้า เพราะคิดไปเองว่าสิ่งที่เกินเอื้อมของฉันนั้นดีกว่าใช่หรือไม่? ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่ริมขอบความเชื่อหรือไม่? พระเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราจากทรัพย์ของพระองค์ (ฟป. 4:19) ดังนั้น แทนที่จะกระเสือกกระสนแสวงหาสิ่งที่เราไม่มี ขอให้เราเปิดใจรับทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เราอยู่แล้วด้วยใจขอบพระคุณ – JAL สุดยอดความปรารถนาของชีวิต อยู่ในองค์พระคริสต์ชั่วกัลปา อยู่อย่างมีความหมายและคุณค่า ทั้งวิญญาสุขสันต์และอิ่มใจ ในพระองค์ฉันได้พบทุกสิ่ง คือรักอันแท้จริงที่ยิ่งใหญ่ อีกความฝันฉันเคยวาดหวังไว้ [...]
↧
↧
ทีมของพระเยซู
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2013 อ่าน: ลูกา 5:27-35 พระองค์…ทรงเห็นคนเก็บภาษีคนหนึ่งชื่อเลวี…จึงตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด” – ลูกา 5:27 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 5-7, มาระโก 11:1-18 ในปี 2002 โอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ สร้างทีมให้เป็นแชมป์เบสบอลด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาเสียผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีมไปสามคนหลังจากปี 2001 และไม่มีเงินมากพอจะซื้อผู้เล่นชื่อดัง ด้วยเหตุนี้ บิลลี่ บีน ผู้จัดการทั่วไปของทีมจึงใช้สถิติที่มักถูกมองข้าม มารวบรวมผู้เล่นที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทั้งพวกที่ “เลยวัย” และคนที่ทีมอื่นมองว่าไม่เก่งพอ ทีมที่ดูไม่มีอะไรทีมนี้ชนะติดต่อกันถึง 20 เกมรวด สุดท้ายได้เป็นที่หนึ่งของดิวิชั่นและชนะไป 103 เกม เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง “ทีม” ที่พระเยซูทรงรวบรวมมา ซึ่งมีทั้งชาวประมงจากกาลิลี คนชาตินิยมและคนเก็บภาษีที่น่ารังเกียจอย่างเลวี (มัทธิว) ทำให้ผมระลึกได้ว่า “พระเจ้า…ได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าอ่อนแอ เพื่อทำให้คนที่แข็งแรงอับอาย” (1 คร.1:27) พระเจ้าทรงใช้สาวกที่ทุ่มเท (ยกเว้นยูดาส) เพื่อจุดกระแสความเคลื่อนไหวที่ส่งผลเป็นการเปลี่ยนแปลงโลก [...]
↧
เพื่อนอธิษฐาน
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2013 อ่าน: 1 เธสะโลนิกา 3:6-13 พี่น้องทั้งหลาย จงอธิษฐานเพื่อเราด้วย – 1 เธสะโลนิกา 5:25 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 8-10, มาระโก 11:19-33 ฉันนัดทานอาหารกลางวันกับเพื่อนชื่อแองจี้ซึ่งไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน ก่อนจากกันเธอหยิบกระดาษที่จดบันทึกหัวข้ออธิษฐานที่ฉันขอให้เธออธิษฐานเผื่อมาตั้งแต่พบกันคราวก่อนเธอถามฉันทีละข้อว่าพระเจ้าทรงตอบหรือยังหรือว่ามีความคืบหน้าอะไรหรือไม่ จากนั้นเราคุยกันถึงสิ่งที่เธอต้องการให้อธิษฐานเผื่อ การมีเพื่อนอธิษฐาน เป็นสิ่งที่หนุนใจดีจริงๆ! อัครทูตเปาโลมีความสัมพันธ์ด้านการอธิษฐานกับคริสตจักรที่ท่านรับใช้อยู่ รวมทั้งคริสตจักรในเมืองเธสะโลนิกาด้วย ท่านขอบคุณพระเจ้าสำหรับความเชื่อ ความรักและความหวังของพวกเขา (1 ธส.1:2-3) ท่านปรารถนาที่จะพบพวกเขา และอธิษฐานขอพระเจ้า “ทั้งกลางวันกลางคืน” เพื่อจะได้ไปเยี่ยมพวกเขาอีก (1 ธส. 3:10-11) ท่านทูลขอพระเจ้าให้ทรงช่วยพวกเขา “จำเริญและบริบูรณ์ไปด้วยความรักซึ่งกันและกันและรักคนทั้งปวง” (1 ธส. 3:12) ท่านยังอธิษฐานให้หัวใจของพวกเขาบริสุทธิ์ต่อพระเจ้าอีกด้วย (1 ธส. 3:13) พวกเขาคงได้รับการหนุนใจมาก เมื่อได้รับรู้ความห่วงใยและคำอธิษฐานที่ท่านมีต่อพวกเขา เปาโลรู้ว่าท่านเองก็ต้องการการทรงสถิตและกำลังจากพระเจ้าเช่นกัน ท่านขอร้องว่า “พี่น้องทั้งหลาย จงอธิษฐานเพื่อเราด้วย” (1 [...]
↧
เงินถวายเกินฐานะ
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2013 อ่าน: ลูกา 21:1-4 เพราะว่าคนทั้งปวงนี้ได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ถวาย แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุดยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด – ลูกา 21:4 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 11-13, มาระโก 12:1-27 ตอนที่ผมเป็นศิษยาภิบาลที่คริสตจักรเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เราเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ หากเราไม่ปรับปรุงอาคารหลายจุดให้ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยให้สำเร็จ เราจะต้องเสียสถานนมัสการไป เราจึงระดมทุนทุกวิถีทาง ในบรรดาเงินถวายทั้งหมด มีการถวายครั้งหนึ่งที่น่าสนใจ หญิงชราท่านหนึ่งถวายเงินหลายร้อยดอลล่าร์ให้กับโครงการ ซึ่งเรารู้ว่าเธอไม่สามารถให้ได้เราขอบคุณเธอสำหรับการถวาย แต่อยากคืนเงินให้ เพราะรู้สึกว่าเธอต้องใช้เงินนั้นมากกว่าคริสตจักร แต่เธอปฏิเสธ เธอเก็บเงินมาหลายปีเพื่อจะซื้อเตาอบอาหาร แทนเตาไฟฟ้าที่เธอใช้อยู่ แต่เธอยืนยันว่าเธอต้องการสถานนมัสการร่วมกับครอบครัวมากกว่าเตาอบ เราต่างประหลาดใจกับเงินถวายที่เกินฐานะของเธอ เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นหญิงม่ายนำเหรียญทองแดง (เหรียญที่มีค่าน้อยที่สุด) สองเหรียญมาใส่ในตู้เก็บเงินถวาย พระองค์ทรงสรรเสริญความใจกว้างของเธอ (ลก.21:3-4) เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะจำนวนเงินที่เธอให้ แต่เพราะเธอให้ทั้งหมดที่เธอมีของถวายเช่นนี้ไม่เพียงแต่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าเท่านั้น แต่ยังเตือนให้เรารำลึกถึงองค์พระคริสต์ ผู้เป็นของประทานที่สูงค่าเกินไปสำหรับเราด้วย – BC หากตัวฉันเป็นเมษบาล ดวงมานฉันคงสุขสันต์ ถวายลูกแกะที่มีนั้น สรรเสริญบูชาพระองค์ หากฉันเป็นดังนักปราชญ์ สามารถทำตามประสงค์ [...]
↧
ขอบพระคุณในทุกกรณี
วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2013 อ่าน: 1 เธสะโลนิกา 5:12-22 จงขอบพระคุณในทุกกรณี – 1 เธสะโลนิกา 5:18 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 14-16, มาระโก 12:28-44 ลูกสาวของฉันแพ้ถั่วลิสงอย่างรุนแรง การกินเศษถั่วแม้แต่นิดเดียวอาจมีอันตรายถึงชีวิต ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องอ่านฉลากอาหารอย่างพินิจพิเคราะห์และพกเข็มบรรจุยาแก้แพ้ติดตัวตลอด (เผื่อมีอาการ) และเมื่อไปรับประทานอาหารนอกบ้าน เราจะโทรไปล่วงหน้าและสอบถามพนักงานเกี่ยวกับรายการอาหาร แม้จะระมัดระวังขนาดนี้ แต่ฉันก็ยังกังวลทั้งเรื่องความปลอดภัยในปัจจุบันและความปลอดภัยในอนาคตของลูก สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่ใครจะขอบพระคุณได้เลยกระนั้นพระวจนะของพระเจ้าก็ยังท้าทายฉันว่า“จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย” (1 ธส.5:18) ไม่มีทางอื่น พระเจ้าทรงต้องการให้เราอธิษฐานด้วยใจขอบพระคุณ ในเวลาที่อนาคตดูไม่แน่นอน ในเวลาที่หัวใจแหลกสลาย และในเวลาที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง การขอบพระคุณท่ามกลางความยากลำบากเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ดาเนียล “อธิษฐาน และโมทนาพระคุณ” (ดนล.6:10) ทั้งที่รู้ว่าชีวิตตกอยู่ในอันตราย โยนาห์ร้อง “ด้วยเสียงโมทนาพระคุณ” (ยนา.2:9) แม้อยู่ในท้องปลา! ตัวอย่างเหล่านี้ กับพระสัญญาของพระเจ้าที่ว่าพระองค์จะทรงทำให้ทุกอย่างเกิดผลดีเพื่อเรา และเพื่อพระสิริของพระองค์ (รม.8:28) ควรผลักดันให้เราขอบพระคุณในทุกกรณี [...]
↧
↧
ความร่ำรวยในจิตใจ
วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2013 อ่าน: สุภาษิต 30:1-9 ขออย่าประทานความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์ – สุภาษิต 30:8 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 17-19, มาระโก 13:1-20 ต้นปี 2012 คนอเมริกันใช้เงิน 1,500 ล้านดอลล่าร์ซื้อลอตเตอรี่เพราะหวังจะถูกรางวัลสะสม 640 ล้านดอลล่าร์ (มากกว่าสองแสนล้านบาท) ที่น่าตกใจคือโอกาสในการถูกรางวัลที่หนึ่งมีเพียง 1 ใน 176 ล้าน แต่คนก็ยังไปเข้าแถวกันเต็มร้านค้า ปั๊มน้ำมันหรือร้านอาหารเพื่อซื้อโอกาสที่จะรวย บางอย่างในตัวเราทำให้เราคิดว่าเงินจะช่วยแก้ปัญหาและทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ชายคนหนึ่งในพระคัมภีร์ชื่ออากูร์มีมุมมองเกี่ยวกับความร่ำรวยแตกต่างออกไป เขาทูลขอพระเจ้าประทานสองอย่างให้กับเขาก่อนที่เขาจะตาย ข้อแรก เขาบอกว่า “ขอให้ความมุสาและความเท็จไกลจากข้าพระองค์” (สภษ.30:8) ความซื่อสัตย์คือกุญแจสำคัญของการมีชีวิตโดยไม่ต้องกังวล เมื่อเราไม่มีอะไรต้องปิดซ่อนเราก็ไม่มีอะไรต้องกลัว การหลอกลวงทำให้เราตกเป็นทาส แต่ความซื่อสัตย์ทำให้เราเป็นไท ข้อสอง เขาบอกว่า “ขออย่าประทานความยากจนหรือความมั่งคั่งแก่ข้าพระองค์ ขอเลี้ยงข้าพระองค์ด้วยอาหารที่พอดีแก่ข้าพระองค์” (สภษ.30:8) ความพึงพอใจมาจากการวางใจว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานและรับสิ่งที่พระองค์ประทานให้ด้วยใจขอบพระคุณอากูร์บอกว่าพระผู้สร้างได้ทรง “สถาปนาที่สุดปลายแห่งแผ่นดินโลกไว้…พระองค์ทรงเป็นโล่แก่บรรดาผู้ลี้ภัยอยู่ในพระองค์” (สภษ.30:4-5) ความซื่อสัตย์และความพึงพอใจ คือความร่ำรวยในจิตใจที่ทุกคนสามารถมีได้ [...]
↧
พยานที่มีชีวิต
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2013 อ่าน: 2 ทิโมธี 2:1-10 จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์ผู้ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย และทรงสืบเชื้อสายจากดาวิด ตามข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศนั้น – 2 ทิโมธี2:8 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 20-22, มาระโก 13:21-37 วอท์ชแมน นี ถูกจับเพราะเชื่อพระเยซูในปี 1952 และถูกจำคุกตลอดชีวิต เขาเสียชีวิตในห้องขังเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1972 เมื่อหลานสาวของเขามารับข้าวของส่วนตัว เธอได้รับเศษกระดาษชิ้นหนึ่งที่ผู้คุมพบอยู่ข้างเตียงในนั้นมีคำพยานชีวิตของเขาเขียนไว้ดังนี้ “พระคริสต์คือพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่คนบาป และสามวันต่อมาทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย นี่คือความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล ผมตายเพราะผมเชื่อในพระคริสต์ – วอท์ชแมน นี” กล่าวกันว่าอัครทูตเปาโลก็ถูกฆ่าเพราะท่านเชื่อในพระคริสต์ ในจดหมายที่ท่านเขียนก่อนตาย เปาโลหนุนใจผู้รับจดหมายของท่านว่า “จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์ผู้ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย และทรงสืบเชื้อสายจากดาวิดตามข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศนั้น และเพราะเหตุข่าวประเสริฐนั้นข้าพเจ้าจึงทนทุกข์…แต่พระวจนะของพระเจ้านั้น ไม่มีผู้ใดเอาโซ่ล่ามไว้ได้” (2 ทธ.2:8-9) เราอาจไม่ถึงขั้นต้องถูกฆ่าเพราะเป็นพยานถึงความจริงของพระคริสต์เช่นเดียวกับที่สาวกของพระองค์นับล้านต้องเผชิญ แต่เราได้รับการทรงเรียกให้เป็นพยานที่มีชีวิตถึงพันธกิจของพระเยซูที่ทรงกระทำเพื่อเรา ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราสามารถบอกผู้อื่นได้ว่าพระเยซูทรงทำอะไรเพื่อเรา ด้วยใจกตัญญูต่อของประทานแห่งพระคุณของพระเจ้า – HDF [...]
↧
กล่องดำ
วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2013 อ่าน: 1 โครินธ์ 10:1-11 เหตุการณ์เหล่านี้ได้บังเกิดแก่เขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และได้บันทึกไว้เพื่อเตือนสติเราทั้งหลาย ซึ่งกำลังประสบวาระสุดท้ายแห่งบรรดายุคเก่า – 1 โครินธ์ 10:11 อ่านพระคัมภีร์ภายใน 1 ปี: เฉลยธรรมบัญญัติ 23-25, มาระโก 14:1-26 เครื่องบินพาณิชย์มีเครื่องบันทึกข้อมูลการบินสองเครื่องที่เรียกว่า “กล่องดำ” เครื่องหนึ่งบันทึกการทำงานและสภาพของเครื่องระหว่างบิน อีกเครื่องบันทึกบทสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่บนเครื่องกับหอบังคับการบินภาคพื้น กล่องดำเหล่านี้ห่อหุ้มด้วยฉนวนกันอุณหภูมิร้อนจัดและมีเครื่องบอกตำแหน่งใต้ทะเลที่ส่งเสียงขึ้นมาถึงพื้นน้ำ หลังจากเครื่องบินตก กล่องดำนี้จะถูกกู้ขึ้นมา และนำข้อมูลไปวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อระบุสาเหตุ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความปลอดภัยทางอากาศต้องการเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต เพื่อไม่ทำผิดซ้ำอีก ในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน เราก็ควรดูความผิดพลาดในอดีต และเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เปาโลกล่าวถึงความผิดพลาดที่ชาวอิสราเอลทำ ระหว่างการเดินทางจากอียิปต์ไปคานาอัน ท่านเขียนว่า เพราะพระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยกับพวกเขา ชาวอิสราเอลจำนวนมากจึงต้องตายในถิ่นทุรกันดาร (1 คร.10:5) เปาโลอธิบายต่อว่า “เหตุการณ์เหล่านี้ได้บังเกิดแก่เขาเพื่อเป็นตัวอย่าง และได้บันทึกไว้เพื่อเตือนสติเราทั้งหลาย ซึ่งกำลังประสบวาระสุดท้ายแห่งบรรดายุคเก่า” (1 โครินธ์ 10:11) พระวจนะที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าเขียนไว้เพื่อสอนการดำเนินชีวิตให้กับเรา (2 ทธ.3:16-17) ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการทรงนำผ่านพระวจนะของพระองค์ – [...]
↧